My Story 1 : ไม่มีเรื่องบังเอิญ มีแต่พรหมลิขิต
My Story 2 : เรียนทั้งทีต้องได้ทั้ง Value (มูลค่า) และ Value (คุณค่า)
My Story 3 : The 4 Ps for being Successful in my Doctoral Degree.
My Story 1 : ไม่มีเรื่องบังเอิญ มีแต่พรหมลิขิต
2 ติ๋ม แม่ผู้ให้กำเนิด…
1. “แม่ติ๋ม” วาสนา ผู้ให้กำเนิด “ด.ญ.สุชาดา” ตอนนี้น่าจะกำลังยิ้มอย่างภูมิใจที่ไหนสักแห่งบนท้องฟ้า
2. “แม่ติ๋ม” รศ.ดร.จันทิมา เขียวแก้ว แม่ผู้ให้กำเนิด “ดร.สุชาดา” และดร.เพื่อนๆอีกหลายคน
….ไม่เคยรักใครเท่าติ๋ม….





My Story 2 : เรียนทั้งทีต้องได้ทั้ง Value (มูลค่า) และ Value (คุณค่า)
ขึ้นเวที 2 ครั้ง เป็นเกียรติประวัติในชีวิต





หนูหวังว่าหลังจากนี้จะได้ใช้ความรู้ช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติต่อไป 

My Story 3 : The 4 Ps for being Successful in my Doctoral Degree.



- ตัวเราเอง ความพร้อมของสุขภาพร่างกายและจิตใจ จำไว้ว่าเรากำลังจะวิ่งมาราธอนที่อาจจะต้องใช้แรงกายแรงใจเป็นเวลานาน
- ครอบครัว ต้องเข้าใจและพร้อมที่จะสนับสนุนเราเสมอ
- เพื่อน ทั้งเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนเก่า และที่สำคัญเพื่อนใหม่ในระดับชั้นปริญญาเอก เพราะเค้าเหล่านี้จะเป็นคนที่อยู่กับคุณมากที่สุดตอนคุณเรียน เค้าจะร่วมทุกข์ร่วมสุข หัวเราะ ร้องไห้ เห็นรอยยิ้มและคราบน้ำตา และพร้อมที่จะ Support เราเสมอ
- ครู อาจารย์ กรรมการทุกท่าน และมหาวิทยาลัย ก็เป็นเพื่อนร่วมทางคนสำคัญของเรามากๆ ถ้าไม่มีท่านอาจารย์ที่มีเมตตา มหาวิทยาลัยที่ดี เราคงมาถึงจุดนี้ได้ยาก โดยเฉพาะอาจารย์ที่ปรึกษาที่แทบจะเจอกันบ่อยกว่าเจอเจ้านายที่ทำงาน ดังคำสุภาษิตที่ว่า “อาจารย์ที่ปรึกษาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง”
- ทุนทรัพย์ สิ่งของ เครื่องใช้ ต้องเตรียมพร้อมเสมอ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อไรคอมจะแฮงค์ ฮาร์ดดิสจะพัง แฟลชไดร์จะหาย เครื่องปรินเตอร์จะเสีย หรือรถที่ขับจะต้องเข้าอู่ และเมื่อไรที่เราจะต้องจ่ายเงินนอกเหนือจากที่คาดเดาไว้
- เวลา เพราะเวลาไม่เคยรอใคร และสายน้ำก็ไม่ไหลย้อนกลับ ดังนั้นเราจะต้องวางแผนจัดการกับเวลาให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย เวลาเป็นเพื่อนร่วมทางของเราที่จะกำหนดชีวิตเราได้เช่นกัน เพราะช่วงส่งเล่มดุษฏีนิพนธ์ เราจะอยากให้วันนึงมี 72 ชั่วโมง

